สับปะรด.. ต้องทานเนื้อพร้อมแกน เพิ่มคุณค่าทางอาหาร
คนส่วนมากเวลารับประทานสับปะรดมักทิ้งแกนแข็งๆ ที่อยู่ตรงกลางผลออกไป เพราะคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ โดยหารู้ไม่ว่าเรากำลังทิ้งของดีไปเสียแล้ว เพราะสารอาหารส่วนใหญ่ที่สะสมอยู่ในสับปะรด จะถูกสะสมอยู่บริเวณส่วนที่เป็นแกนกลางมากกว่าในส่วนที่เป็นเนื้อ โดยเฉพาะเอนไซม์โบรมิเรน
ในสับปะรดจะมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าโบรมิเรน มีสรรพคุณในการย่อยสลายโปรตีน จึงนิยมนำไปหมักกับเนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อให้เนื้อนุ่มน่ากิน อีกทั้งเอนไซม์โบรมิเรนนี้ ยังมีประโยชน์มากมาย คือ
- เพราะมีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร ถ้ามื้อไหนทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เข้าไปมากๆจนจุกเสียด แน่นท้อง ให้ทานสับปะรดเข้าไปหลังรับประทานอาหารจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
- ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะเอนไซม์บรอมีเลนมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อน ๆ คอยทำลายแบคทีเรียที่ไม่มีประโยชน์
- ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ มีกากใยมาก จึงช่วยแก้ท้องผูกได้ แต่ก็ไม่ควรทานมากไป เพราะจะทำให้ท้องเสียแทน
- มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา แก้นิ่ว
- ลดอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ หลังจากออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ
- ป้องกันการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต เพราะเอนไซม์บรอมีเลนจะไปช่วยลดการเกาะกันเป็นลิ่มเลือดของเกล็ดเลือด
- เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ต่อต้านโรคมะเร็ง นั่นเพราะบรอมีเลนจะทำให้เม็ดเลือดขาวหลั่งสารไซโตไคน์ ที่ทำให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเซลล์มะเร็งได้ ช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่
- กระตุ้นฮอร์โมนเพศชาย ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน ถือเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดีให้คุณผู้ชาย
- บรรเทาโรคเกาต์ได้ โดยทานสับปะรด 1/4 ผล (ขนาดเล็ก) วันละ 2-3 ครั้ง หลังอาหาร 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้เอนไซม์บรอมีเลนช่วยต้านการอักเสบ ลดความเจ็บปวดจากการอักเสบ
เมื่อทราบประโยชน์ของแกนสับปะรดแล้ว คราวหน้าเวลาหั่นสับปะรดก็ควรหั่นเนื้อมาพร้อมกับแกนกลางด้วยจะดีกว่าทานแต่เนื้ออย่างเดียว
******************************************
เรียบเรียงโดย
ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล
เว็บไซด์กระปุกดอทคอม
แสดงความคิดเห็น